อาการรถเด้ง เกิดจากอะไร ต้องแก้ไขยังไง?

27 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อาการรถเด้ง

เคยเจอไหมกับอาการรถกระเด้ง ขับรถไป รถก็เด้งไป แม้จะขับบนทางเรียบ ไม่ใช่พื้นขรุขระ มีหลุมหรือบ่อใด ๆ รถก็ยังเด้งอยู่ หากใครกำลังประสบปัญหาแบบนี้ บอกเลยว่าอาการน่าเป็นห่วง เพราะอาการรถเด้ง เป็นสัญญาณเตือนที่กำลังบอกว่าช่วงล่างรถของคุณอาจจะมีปัญหา ควรแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย 

อาการรถเด้ง เกิดจากอะไร?

อาการรถเด้งเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ต้นตอหลัก ๆ ที่ทำให้รถเด้งก็คือ อุปกรณ์ช่วงล่างและโช๊ครถยนต์มีปัญหา หรือยางรถยนต์เสื่อมสภาพ 

1. โช๊ครถยนต์เสื่อมสภาพ

สาเหตุหลักที่ทำให้รถเด้ง คือปัญหาโช๊ครถยนต์เสื่อมภาพ เนื่องจากโช๊ครถยนต์ทำหน้าที่ดูดซับแรงสะเทือนจากล้อไม่ให้มาถึงตัวรถมากเกินไป เมื่อเกิดการเสื่อมสภาพ การทำงานก็จะเสื่อมประสิทธิภาพลงไปด้วย ทำให้รถมีอาการกระเด้งกระดอนขณะขับขี่ ห้องโดยสารสั่นสะเทือน ขับได้ไม่นิ่มนวลเหมือนเคย ควรนำเข้าอู่หรือศูนย์บริการให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเปลี่ยนโช๊ครถยนต์ให้ใหม่

2. สปริงล้า

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถเด้ง ก็คือ สปริงรถยนต์ล้าจนรับน้ำหนักได้ไม่ดี ทำให้รถเด้งเกินควร หรือมีแรงดีดมากเกินไป เนื่องจากสปริงคือส่วนที่รองรับน้ำหนักของตัวรถโดยตรง และทำงานคู่กับโช๊ค ถ้าสปริงล้าหรืออยู่ในสภาพชำรุด ก็จะทำให้เกิดแรงดีดกลับมากกว่าปกติ ทำให้รถเด้งนั่นเอง

3. ลูกหมาก-บูชยางเสื่อม

ลูกหมากและบูชยางเป็นจุดเชื่อมระหว่างชิ้นส่วนช่วงล่าง หากเกิดการเสื่อมสภาพ จะทำให้ช่วงล่างหลวม จนเกิดอาการสั่นคลอน รถเด้ง ควบคุมทิศทางได้ไม่แม่น โดยมักจะมาพร้อมกับเสียงกึกกักใต้ท้องรถ

4. ยางบวมหรือเป็นคลื่น 

หากรถเด้งหรือสั่นขณะขับด้วยความเร็วสูง เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะยางมีอาการบวม หรือเป็นคลื่น หรือสึกไม่สม่ำเสมอ ทำให้ล้อสั่นและเด้งตัวขณะกำลังหมุน หากไม่รีบเปลี่ยนใหม่อาจทำให้ยางระเบิดได้ 

5. ยางแตกร้าวหรือเนื้อยางล่อน 

ยางที่แตกร้าว หรือยางที่มีเนื้อยางหลุดร่อน จะทำให้ยางกระจายแรงได้ไม่ดี จนส่งผลให้รถเด้งหรือโยกไปด้านใดด้านหนึ่ง เสียสมดุลในการขับขี่ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรรีบแก้ไขให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัย

6. ยางแข็งตัวมากเกินไป 

ยางที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดีจะมีความยืดหยุ่น ส่วนยางรถที่แข็งตัวมากเกินไป เช่น ยางเก่าหรือยางที่เติมลมจนแน่นเกินไป จะไม่ดูดซับแรงกระแทก ทำให้รถเด้งหรือมีอาการสะเทือนแรง ๆ โดยเฉพาะเวลาเจอหลุม ลูกระนาด หรือขับบนทางขรุขระ

7. ใช้ยางผิดประเภท 

การใช้ยางรถผิดประเภท เช่น ใส่ยางแก้มเตี้ยเกินไป หรือใช้ยางสปอร์ตกับถนนลูกรัง ก็เป็นสาเหตุให้รถเด้งได้เช่นเดียวกัน ยิ่งถ้านำยางที่ออกแบบเพื่อสนาม มาใช้บนถนนลูกรัง ก็จะเกิดอาการเด้งได้ชัดเจน และขับได้ไม่นุ่มนวล

วิธีแก้อาการรถเด้ง

1. เปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ใหม่ 

อาการรถเด้ง มีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของโช๊ครถยนต์ จึงควรนำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและเปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ให้ใหม่ ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด โดยวิธีการตรวจสอบเมื่อโช๊คอัพเสื่อมสภาพนั้น สามารถทำได้ตามวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  • เช็กจากลักษณะภายนอก : มีลักษณะคดงอ บุบ มีรอยรั่วของน้ำมันที่แกนโช๊คอัพ
  • รถยนต์สั่นขึ้น-ลงไม่หยุด : เมื่อออกแรงกดไปที่ฝากระโปรงรถจนรถจมลง แล้วรถเด้งสั่นไม่หยุด แสดงว่าโช๊คเสื่อมสภาพ แต่ถ้ากดแล้วรถคืนตัวกลับมาทันทีโดยไม่มีอาการสั่น แสดงว่าโช๊คใช้งานได้ตามปกติ
  • สังเกตอาการรถเด้ง : สังเกตว่ารถยนต์มีอาการกระเด้งอย่างหนักเมื่อขับผ่านเนิน ลูกระนาด หรือทางขรุขระ แม้จะขับออกมาแล้วก็ยังมีอาการเด้งขึ้นลงอยู่
  • สังเกตอาการรถแกว่ง : สังเกตว่าขณะขับขี่ รถแกว่งออกด้านข้างหรือไม่ หากโช๊คใช้งานได้ปกติ รถจะไม่แกว่งออกด้านข้าง และจะขับได้อย่างราบรื่น 
  • สังเกตอาการรถทิ่ม : หากเบรกรถแล้วว่ารถหน้าทิ่ม เป็นไปได้ว่าโช๊ครถยนต์อาจจะมีปัญหา

2. เช็กและเปลี่ยนยาง 

หากยางเสื่อมสภาพ เช่น บวม เนื้อยางหลุด ยางแข็งจนเกินไป จะทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนมากกว่าปกติ จนรถเด้งนั่นเอง จึงต้องนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างตรวจเช็กหาสาเหตุและเปลี่ยนยางให้ใหม่เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการใช้งาน 

3. ตรวจบูชยาง-ลูกหมาก 

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถเด้งมาจากความเสื่อมสภาพของตรวจบูชยาง-ลูกหมาก จึงควรเปลี่ยนใหม่โดยอาจจะเปลี่ยนเฉพาะจุดที่สึกหรอหรือเปลี่ยนยกชุดไปเลยเพื่อความสมดุลในการขับขี่

4. เปลี่ยนสปริงใหม่

การเปลี่ยนสปริงใหม่ก็สามารถแก้ปัญหารถเด้งได้ด้วยเช่นเดียวกันโดยเลือกเปลี่ยนสปริงที่เหมาะกับสมกับชนิดของโช๊คอัพเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างสมดุลและราบรื่นตลอดการเดินทาง

5. เช็กสภาพรถตามกำหนด

เพื่อป้องกันปัญหารถเด้ง และความปลอดภัยในการขับขี่ อย่าลืมนำรถยนต์เข้าเช็กระยะที่ศูนย์บริการตามระยะเวลาหรือระยะทางที่กำหนด (หากขับบนทางขรุขระทุกวันควรตรวจเช็กให้เร็วกว่าเดิม) เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กระบบช่วงล่าง หาจุดที่ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นบานปลายในภายหลัง


สรุปได้ว่า รถเด้งมีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ คือ ระบบช่วงล่างมีปัญหา และยางรถยนต์เสื่อมสภาพ ซึ่งต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อการแก้ไขที่ตรงจุด โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการนำรถยนต์เข้าอู่หรือศูนย์บริการรถยนต์ที่น่าเชื่อถือนั่นเอง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้