โช๊ครถยนต์ มีหน้าที่อะไร? หลักการทำงานของระบบโช๊คอัพรถยนต์

1065 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เลือกโช๊คอัพรถยนต์

อีกหนึ่งส่วนสำคัญของระบบช่วงล่างรถยนต์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ “โช๊ครถยนต์” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้รถขับขี่ได้อย่าง นุ่มนวล, เกาะถนนดี, และ ลดแรงกระแทกจากพื้นผิวถนน ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดแรงสั่นสะเทือน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า ควรเลือกโช๊ครถยนต์กแบบไหน ให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของตัวเอง ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อและใช้งานได้อย่างถูกต้อง

โช๊ครถยนต์คืออะไร โช๊ครถยนต์มีหน้าที่อย่างไร

โช๊คอัพรถยนต์ หรือ โช๊ครถยนต์ (Shock Absorber) คืออุปกรณ์สำคัญในระบบช่วงล่างรถยนต์ มีหน้าที่สำคัญในการดูดซับแรงกระแทก ลดแรงสั่นสะเทือน และอาการโคลงเคลงที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ หน่วงตัวถังรถยนต์ให้เคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ ทรงตัวดี ล้อรถสามารถเกาะถนนได้ดีตลอดเส้นทาง ยิ่งถ้าเจอถนนขรุขระ มีหลุมบ่อ โช๊ครถยนต์จะช่วยลดความรุนแรงของการกระแทก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

โช๊ครถยนต์มีกี่ประเภท

ประเภทของโช๊คอัพรถยนต์แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ แบ่งตามโครงสร้างกระบอก และแบ่งตามคุณสมบัติการทำงาน โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

ประเภทของโช๊คอัพรถยนต์ตามโครงสร้างกระบอก

1. โช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกเดี่ยว (Mono Tube) ถูกออกแบบให้ทุกระบบ น้ำมัน แก๊ส ลูกสูบ และวาล์ว ทำงานรวมอยู่ในกระบอกเดียว โดยมีการแบ่งห้องน้ำมันและห้องแก๊สออกจากกันด้วยลูกสูบภายใน น้ำมันจะอยู่ส่วนบนและแก๊สจะอยู่ส่วนล่าง เมื่อโช้คถูกกดให้ยุบลง ลูกสูบจะรีดน้ำมันลงไปยังห้องแก๊ส ทำให้เกิดแรงดันสูงที่ดันลูกสูบให้กลับขึ้นในทันที กลไกนี้ช่วยสร้างแรงหนืดและการตอบสนองที่รวดเร็ว และด้วยการใช้กระบอกชั้นเดียว การระบายความร้อนภายในจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การควบคุมแรงหนืดมีเสถียรภาพกว่าระบบอื่น

ข้อดีของโช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกเดี่ยว

  • การตอบสนองดีมาก ควบคุมรถนิ่ง แม่น ใช้ความเร็วแล้วมั่นใจ
  • ระบายความร้อนดี เหมาะกับรถที่ใช้งานหนัก วิ่งทางไกล หรือวิ่งต่อเนื่อง
  • แรงหนืดเสถียรกว่าแบบกระบอกคู่ ทำให้รถ “เฟิร์ม” เวลาวิ่งเร็วหรือเข้าโค้ง

ข้อเสียของโช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกเดี่ยว

  • ฟีลอาจจะแข็งขึ้นนิด ๆ เพราะแรงดันแก๊สค่อนข้างสูง
  • โครงสร้างชั้นเดียวทำให้ตัวกระบอกโดนกระแทกหรือความเสียหายจากภายนอกได้ง่ายกว่า
  • ราคามักจะสูงกว่าโช้คแบบ Twin Tube

ถ้าเน้นคอนโทรล เน้นความเร็ว หรือเป็นรถที่ใช้งานหนัก โช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกเดี่ยวคือคำตอบ แต่ถ้าต้องการความนุ่มสบายเป็นหลัก อาจจะรู้สึกแข็งเกินไป

2. โช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกคู่ (Twin Tube) ใช้โครงสร้างสองชั้นซ้อนกัน โดยกระบอกชั้นในทำหน้าที่เป็นห้องลูกสูบที่บรรจุน้ำมัน ส่วนกระบอกชั้นนอกบรรจุแก๊สไนโตรเจน เมื่อล้อเคลื่อนขึ้นลง ลูกสูบจะรีดน้ำมันผ่านเบสวาล์วส่งออกไปยังห้องแก๊สด้านนอก ทำให้เกิดแรงหนืดเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน กลไกแบบสองชั้นนี้ทำให้โช้คทำงานได้ต่อเนื่องในระยะยุบและยืด แม้โครงสร้างจะซับซ้อนกว่า แต่ก็ช่วยปกป้องตัวโช้คจากแรงกระแทกภายนอกได้ดีขึ้น

ข้อดีของโช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกคู่

  • ให้ความนุ่มนวลสูงกว่า ฟีลขับสบาย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

  • ตัวกระบอกถูกปกป้องมากกว่า โดนเศษหินหรือกระแทกก็เสียหายยาก

  • ราคาย่อมเยากว่าแบบกระบอกเดี่ยว

ข้อเสียของโช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกคู่

  • น้ำมันเกิดฟองได้ง่ายกว่า ทำให้แรงหนืดตกเมื่อใช้งานหนักหรือร้อนจัด
  • การตอบสนองและการคุมตัวรถไม่แม่นเท่า Mono Tube โดยเฉพาะตอนใช้ความเร็วหรือขับสมบุกสมบัน

ถ้าต้องการฟีลนุ่มสบาย เน้นขับใช้งานทั่วไปในทุกวัน โช้คอัพรถยนต์แบบกระบอกคู่ตอบโจทย์สุด ๆ แต่ถ้าต้องการแรงคุมตัวแน่น ๆ หรือรองรับการใช้งานหนัก อาจไม่เกาะมั่นเท่าแบบกระบอกเดี่ยว

ประเภทของโช๊คอัพรถยนต์ตามคุณสมบัติการทำงาน

1. โช๊คอัพรถยนต์แบบน้ำมัน ระบบโช๊ครถยนต์ที่ทำงานด้วยการใช้น้ำมันไฮดรอลิคไหลผ่านวาล์วในลูกสูบขณะที่แกนโช๊คเกิดการเคลื่อนตัวเพื่อให้เกิดความหนืดในช่วงที่รถทำความเร็วสูง ทั้งนี้ข้อเสียของโช๊คประเภทนี้อาจมีฟองอากาศเกิดขึ้นในน้ำมันไฮดรอลิค และลดประสิทธิภาพการทำงานของโช๊ค

2. โช๊คอัพรถยนต์แบบแก๊ส ระบบโช๊ครถยนต์ที่มีการทำงานร่วมกันระหว่างแก๊สไนโตรเจนกับน้ำมันไฮดรอลิค หากเกิดแรงสั่นสะเทือนลูกสูบโช๊คจะเคลื่อนตัวลงด้านล่างในกระบอกสูบ พอแก๊สมีแรงดันก็จะดันน้ำมันไฮดรอลิคในห้องน้ำมันสำรองไหลกลับสู่กระบอกสูบแบบไม่เกิดฟองอากาศ (เพราะแรงดันทำให้ฟองอากาศแตกตัว) จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และยังแบ่งออกได้ทั้งโช๊คอัพแก๊สแรงต่ำและแรงสูง

โครงสร้างของโช๊ครถยนต์

โช๊ครถยนต์ (Shock Absorber) มีหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกและควบคุมการทรงตัว โดยมีโครงสร้างหลักดังนี้

  • แกนโช๊ค (Piston Rod) เชื่อมต่อกับตัวถังรถ เคลื่อนขึ้น-ลงในกระบอกโช๊คเพื่อส่งแรงไปยังลูกสูบ
  • ลูกสูบ (Piston) ควบคุมการไหลของน้ำมันผ่านวาล์ว สร้างแรงต้านให้ตัวรถนิ่ง
  • กระบอกสูบ (Cylinder Tube) บรรจุน้ำมันหรือแก๊ส โครงสร้างต้องแข็งแรง ทนแรงดัน
  • น้ำมันไฮดรอลิก ช่วยดูดซับแรงและระบายความร้อนในระบบโช๊ค
  • แก๊สไนโตรเจน (เฉพาะบางรุ่น) ลดฟองอากาศในน้ำมัน เพิ่มความไวในการตอบสนอง
  • ซีลกันรั่ว ป้องกันน้ำมันรั่ว และสิ่งสกปรกเข้าภายใน
  • วาล์ว (Valve) ควบคุมแรงหนืดของโช๊ค ขึ้นอยู่กับการไหลของน้ำมัน
  • บูชยางและจุดยึด ช่วยลดแรงสั่นและยึดโช๊คกับตัวรถอย่างมั่นคง

วิธีเลือกโช๊ครถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน

  • พิจารณาสภาพถนนที่ใช้เป็นหลัก ต้องขับขี่บนถนนขรุขระ หรือทางเรียบบ่อยกว่า เพื่อเลือกประเภทโช๊ครถยนต์ที่รองรับอย่างเหมาะสม
  • สไตล์การขับขี่ หากเป็นคนขับช้า-นุ่มนวลสามารถเลือกโช๊ครถยนต์แบบทุกแบบแต่แนะนำแบบนุ่ม ไม่ต้องแข็งมาก รู้สึกสบายขณะขับ แต่สำหรับสายขับเร็ว-สายสปอร์ตควรเลือกโช๊คแข็งหรือความหนืดสูงเพื่อให้ยางเกาะถนนดี เข้าโค้งแล้วยางไม่ย้วย
  • ประเภทของรถ รถแต่ละรุ่นมีน้ำหนัก ดีไซน์เพื่อการทรงตัวคนละแบบ เช่น รถขับขี่ในเมืองกับรถ 4WD การใช้โช๊ครถยนต์ย่อมแตกต่างกัน
  • เลือกโช๊คอัพที่รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี ในกรณีที่คุณต้องใช้รถบรรทุกของหนักบ่อย ๆ ควรเน้นโช๊คที่แข็งหนึบเพื่อการเกาะถนนที่ดี

สัญญาณที่บ่งบอกว่าโช๊ครถยนต์ต้องเปลี่ยน

  • รถเด้งมากกว่าปกติหรือมีเสียงดังจากแรงกระแทก โดยเฉพาะช่วงถนนที่มีหลุมบ่อ หรือลูกระนาด 
  • ทรงตัวไม่ดีเวลาเข้าโค้ง รู้สึกว่ายางย้วย หรือรถโคลงเคลงกว่าปกติ
  • มีเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่าง การสึกของยางไม่สม่ำเสมอ เหตุเพราะโช๊คเสื่อมสภาพและไม่สามารถรักษาสมดุลยางได้แล้ว
  • มีน้ำมันรั่วออกจากโช๊คอัพ ซึ่งสาเหตุมักมาจากโช๊ครั่วซึมเพราะได้รับความเสียหาย เช่น แรงกระแทกรุนแรง

วิธีดูแลและยืดอายุการใช้งานของโช๊ครถยนต์

  • ควรตรวจสอบโช๊คอัพทุก 20,000-50,000 กม. หากสังเกตเห็นความผิดปกติควรรีบเปลี่ยนทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้
  • ขับขี่อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูงต่อเนื่อง ลดการกระแทกแรง ๆ เมื่อเจอทางขรุขระหรือลูกระนาด
  • หลีกเลี่ยงการบรรทุกหนักเกินกำหนด เพราะจะทำให้โช๊ครับน้ำหนักมากเกินไป ยิ่งถ้าเจอถนนไม่เรียบก็มีสิทธิ์แตกหรือรั่วซึมง่าย

ในการเลือกโช๊คอัพรถยนต์ต้องพิจารณาถึงลักษณะการขับขี่ เส้นทางขับขี่ประจำ ไปจนถึงการบรรทุกสิ่งของ ซึ่งปัจจุบันโช๊คแก๊สจัดเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมาก อย่างไรก็ตามอย่าลืมเลือกซื้อโช๊คยี่ห้อและรุ่นที่มีคุณภาพ และติดตั้งกับช่างมืออาชีพเพื่อความมั่นใจในทุกทริปของคุณ หากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบช่วงล่าง โช๊คอัพ สามารถเข้ามารับการตรวจเช็คหรือซ่อมแซมได้ที่ Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ศรีนครินทร์ ศูนย์อะไหล่แท้ Denso ให้บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้