โช๊ครถยนต์ สำคัญแค่ไหน? เมื่อไหร่ควรเปลี่ยน?

9 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โช๊ครถยนต์

โช๊ครถยนต์ อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญของช่วงล่างรถยนต์ที่จะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล ช่วยซับแรงกระแทกจากแรงสั่นสะเทือนบนพื้นถนน ทั้งยังช่วยควบคุมรถ เพิ่มการเกาะถนน ลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลเวลาเข้าโค้งหรือเบรกกะทันหันได้เป็นอย่างดี ทว่าเมื่อใช้งานไปนาน ๆ โช๊คอัพก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพเป็นธรรมดาจึงต้องเปลี่ยนโช๊คใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

โช๊ครถยนต์ คืออะไร?

โช๊ครถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วงล่าง ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนตัวของล้อรถ ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ลดแรงกระแทก และทำให้รถเกาะถนนได้ดีขึ้น เมื่อโช๊คทำงานปกติ รถจะขับนุ่มนวล เข้าโค้งหรือเบรกกะทันหันได้มั่นใจ

โช๊คเสื่อมมีผลอย่างไร?

เมื่อโช๊คเริ่มเสื่อมสภาพ รถจะมีอาการสั่นมากขึ้น ท้ายหรือหัวรถเด้งกว่าปกติ เข้าโค้งแล้วรู้สึกโคลงเคลง ระยะเบรกยาวขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ จึงควรตรวจเช็กและเปลี่ยนโช๊คตามระยะหรือเมื่อมีสัญญาณเตือน

สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนโช๊ครถยนต์

  • รถสั่นมากผิดปกติเมื่อเจอถนนขรุขระ
  • รู้สึกว่ารถโยนหรือโคลงเวลาเข้าโค้ง
  • มีเสียงกระแทกดังจากช่วงล่าง
  • เห็นน้ำมันรั่วซึมบริเวณโช๊ค
  • ระยะเบรกยาวขึ้น รถทรงตัวยากเมื่อเบรกกะทันหัน

หากพบอาการเหล่านี้ แนะนำให้ตรวจเช็กโช๊คอัพกับศูนย์บริการรถยนต์ทันที

เปลี่ยนโช๊ครถยนต์เองได้ไหม ควรเปลี่ยนโช๊คอัพที่ไหนดี?

การเปลี่ยนโช๊คอัพควรทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือครบถ้วน เพราะการถอดและประกอบโช๊คต้องใช้เทคนิคเฉพาะ รวมถึงการปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับรถของแต่ละรุ่น เพื่อให้ได้สมรรถนะและความปลอดภัยสูงสุด

โช๊ครถยนต์สามารถเปลี่ยนเองได้ แต่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบพอสมควร ที่สำคัญยังต้องมีอุปกรณ์ในการเปลี่ยนที่ครบครัน มีความรู้เรื่องรถโดยพื้นฐาน และต้องทำในพื้นที่ปลอดภัย

อุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนโช๊ครถยนต์

  1. แม่แรงรถ (Hydraulic Jack) ใช้สำหรับการยกรถ
  2. ขาตั้งแม่แรง (Jack Stand) ใช้ควบคู่กับแม่แรงเพื่อรองรับน้ำหนักรถ
  3. ประแจเบอร์ 12-17 เตรียมไว้สำหรับคลายนอตโช๊ครถยนต์
  4. สปริงคอมเพรสเซอร์ (Spring Compressor) ใช้กดสปริงก่อนถอดโช๊ค
  5. โช๊คและสปริงใหม่ที่ตรงรุ่น หรือมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นเดิม 

ขั้นตอนเปลี่ยนโช๊ครถยนต์โดยทั่วไป

โช๊ครถยนต์ถือเป็นชิ้นส่วนช่วงล่างที่สำคัญ ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน ทำให้รถเกาะถนนได้ดีและขับขี่ปลอดภัย เมื่อโช๊คเสื่อมสภาพ การเปลี่ยนโช๊คใหม่ถือเป็นวิธีดูแลรถที่ช่วยยืดอายุการใช้งานส่วนอื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย

โดยทั่วไป ตัวอย่างขั้นตอนการเปลี่ยนโช๊ครถยนต์ เช่น รถเก๋งขนาด 4-5 ที่นั่ง มีลำดับประมาณนี้

1. เตรียมพื้นที่และความพร้อม

ก่อนเริ่มงาน ช่างจะตรวจสอบให้รถจอดบนพื้นเรียบ ดึงเบรกมือ และเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อความปลอดภัยในการถอดและประกอบชิ้นส่วน

2. ยกรถขึ้นจากพื้น

ใช้แม่แรง (Hydraulic Jack) ยกรถให้สูงพอเหมาะ แล้วใช้ขาตั้งรองรับ (Jack Stand) เพื่อให้มั่นใจว่ารถจะอยู่ในตำแหน่งคงที่ตลอดการทำงาน

3. ถอดล้อและโช๊คเดิม

ช่างจะถอดล้อเพื่อให้เข้าถึงชุดโช๊คอัพ แล้วคลายนอตหรือสลักยึดโช๊คทั้งด้านบนและด้านล่างออกอย่างระมัดระวัง

4. ถอดสปริงและชิ้นส่วนประกอบ

บางรุ่นอาจต้องถอดสปริงออกจากโช๊คเดิมโดยใช้อุปกรณ์เฉพาะ เช่น Spring Compressor เพื่อป้องกันอันตรายจากแรงดันสปริง

5. ประกอบโช๊คใหม่

ติดตั้งโช๊คอัพใหม่ร่วมกับสปริงเดิมหรือชิ้นส่วนที่ยังสภาพดี โดยช่างจะตรวจเช็กขนาดและรุ่นให้ตรงกับสเปกรถทุกครั้ง เพื่อให้ช่วงล่างทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

6. ประกอบกลับและตรวจสอบ

หลังใส่โช๊คใหม่เรียบร้อย จะประกอบล้อกลับเข้าที่ และตรวจเช็กความแน่นของนอตทั้งหมด พร้อมทดสอบการทรงตัวด้วยการขับขี่ในความเร็วต่ำเพื่อความมั่นใจ

ข้อควรระวังในการเปลี่ยนโช๊ครถยนต์

  • ใช้อุปกรณ์เฉพาะ
    การถอดสปริงหรือประกอบโช๊คอัพใหม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง เพราะสปริงมีแรงดันสูง อาจเกิดอุบัติเหตุได้หากทำผิดวิธี
  • วางขาตั้งรองรับน้ำหนักทุกครั้ง
    ห้ามพึ่งพาแม่แรงอย่างเดียว เพราะอาจล้มได้ ควรใช้ Jack Stand ช่วยรับน้ำหนักเพื่อป้องกันรถตกทับ
  • ตรวจสอบความแน่นและรุ่นโช๊คให้ตรง
    ต้องตรวจเช็กให้แน่ใจว่าโช๊คและชิ้นส่วนตรงรุ่น ติดตั้งถูกด้าน และขันนอตแน่นหนา เพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว
  • ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดูแล แม้ว่าขั้นตอนการเปลี่ยนโช๊คอัพอาจดูไม่ซับซ้อนมากนักสำหรับช่างมืออาชีพ แต่การถอดและประกอบอย่างถูกวิธี รวมถึงการตรวจสอบส่วนประกอบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับรถแต่ละรุ่น จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และเครื่องมือครบถ้วน เพื่อให้รถกลับมามีสมรรถนะเต็มที่และปลอดภัยที่สุด

หากไม่มั่นใจ หรือไม่มีอุปกรณ์พร้อม แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมมาตรฐาน เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลแทนจะดีที่สุด หากมีปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์สามารถมาเข้ารับบริการได้ที่ Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ ซ่อมแอร์รถยนต์หลากหลายรุ่น เช่น ซ่อมแอร์ Mazda ซ่อมแอร์ Toyota

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้