จานเบรค มีหน้าที่อะไร ควรเปลี่ยนตอนไหน?

37 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จานเบรค มีหน้าที่อะไร ควรเปลี่ยนตอนไหน

จานเบรค เป็นอุปกรณ์ในรถยนต์อีกชิ้นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อระบบเบรค มีหน้าที่สร้างแรงเสียดทานเพื่อทำให้รถหยุด จึงต้องมีการดูแลรักษา และเปลี่ยนใหม่เมื่อจานเบรคเสื่อมสภาพ เพราะส่งผลกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่โดยตรง

จานเบรค คืออะไร?

จานเบรค (Brake Disc) คือ ชิ้นส่วนในระบบเบรค มีลักษณะเป็นแผ่นโลหะทรงกลม (คล้ายจาน) โดยจะติดตั้งอยู่กับดุมล้อของรถยนต์ หรือจักรยานยนต์

จานเบรค มีกี่ชนิด

1. จานเบรคแบบเรียบ (Smooth)

เป็นจานเบรคที่ได้มาจากโรงงาน ทำจากเหล็ก มีผิวเรียบ ไม่มีร่องหรือรูใด ๆ สร้างแรงเสียดทานในการเบรคได้ดี แต่ระบายความร้อนได้ช้ากว่าจานเบรคแบบมีรู เหมาะกับรถยนต์ทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

2. จานเบรคแบบมีรู (Drilled)

มีจุดเด่นที่ระบายความร้อนได้ดี มีน้ำหนักเบากว่าแบบธรรมดา ทั้งยังช่วยลดโอกาสเกิดการเบรคไม่อยู่เมื่อจานเบรคมีความร้อนสูงได้ แต่เสี่ยงต่อการแตกร้าวเมื่อใช้งานหนัก เหมาะกับรถยนต์สมรรถนะสูง

3. จานเบรคแบบมีร่อง (Slotted)

ข้อดีคือมีแรงเสียดทานในการเบรคสูงกว่าทุก ๆ แบบ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยระบายฝุ่นและน้ำออกจากผ้าเบรค ลดอาการลื่นไถลได้ดี แตกหักยากกว่าจานเบรคแบบเจาะรู แต่ก็มีอายุการใช้งานสั้นกว่า เหมาะกับรถยนต์สมรรถนะสูง รถแข่ง และรถที่บรรทุกหนัก

4. จานเบรคแบบเซรามิก (Ceramic)

ผลิตจากเซรามิกและคาร์บอนคอมโพสิต มีน้ำหนักเบา สามารถทนความร้อนได้สูง ทั้งยังระบายความร้อนได้ดี เกิดฝุ่นได้น้อย มีอายุการใช้งานนานกว่าจานเบรคที่ผลิตจากเหล็ก แต่ก็มีราคาสูงกว่าเช่นกัน เหมาะกับรถสมรรถนะสูง แรงม้าเยอะ

ลักษณะการทำงานของจานเบรค

เมื่อเหยียบเบรค แรงดันจะถูกส่งจากแม่ปั๊มเบรคไปยังระบบไฮดรอลิก แล้วของเหลวที่อยู่ในระบบไฮดรอลิก ก็จะถูกดันผ่านท่อเบรคไปยังคาลิปเปอร์เบรก จากนั้นลูกสูบในคาลิปเปอร์เบรคก็จะถูกดันออกมาเข้าหาจานเบรคทั้ง 2 ด้าน เมื่อผ้าเบรคกดลงกับจานเบรค ก็จะเกิดแรงเสียดทานทำให้รถชะลอหรือหยุดลง

โดยแรงเสียดทานนั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ของล้อที่กำลังหมุนให้กลายเป็นพลังความร้อน หากความร้อนถูกระบายออกจากจานเบรคได้ไม่ดี ก็จะทำให้เกิดการเบรคเฟด และจะไม่สามารถหยุดหรือชะลอรถได้นั่นเอง

ควรเปลี่ยนจานเบรคตอนไหน?

พวงมาลัยสั่นขณะเบรค

หากเหยียบเบรคแล้วพวงมาลัยสั่นหรือกระตุก อาจมีสาเหตุมาจากจานเบรคคดข้างใดข้างหนึ่ง สามารถแก้ไขได้ด้วยการจารจานเบรค เพื่อปรับหน้าผิวให้เรียบขึ้น เว้นแต่จะบางกว่ามาตรฐาน (19 มม.) ควรเปลี่ยนใหม่ทันที

มีเสียงดังขณะเบรค

กรณีเบรคแล้วได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าด อาจมีสาเหตุมาจากจานเบรคแตกร้าว หรือเกิดการสึกหรอ ส่วนถ้าเบรคแล้วได้ยินเหมือนเสียงขูดโลหะ มีเปอร์เซ็นต์สูงว่าผ้าเบรคจะสึกจนเหล็กเสียดสีกับจานเบรคนั่นเอง 

ต้องเหยียบเบรคแรงมากกว่าปกติ

หากขับรถแล้วรู้สึกว่าต้องเหยียบเบรคแรงกว่าปกติ รถจึงจะชะลอหรือหยุด อาจมีสาเหตุมาจากมีคราบน้ำมันเกาะผิวจานเบรค ทำให้ผิวเรียบมากเกินไปจนไม่สร้างแรงเสียดทาน ควรนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ให้ช่างปรับปรุงและแก้ไข

ล้อมีกลิ่นไหม้

หลังการเบรค หากได้กลิ่นไหม้ หรือกลิ่นคล้าย ๆ โลหะกำลังร้อน เป็นไปได้ว่าจานเบรคอาจจะร้อนจากการใช้งานหนัก หรือผ้าเบรคไหม้จนไปติดจานเบรคนั่นเอง ควรพักใช้รถและนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างตรวจสอบ หากมีรอยไหม้ลึกควรเปลี่ยนจานเบรคใหม่

การดูแลจานเบรค ทำยังไง?

  • นำรถเข้าศูนย์ให้ช่างตรวจเช็กทุก ๆ 20,000 - 30,000 กม. หรือเมื่อพบอาการผิดปกติ
  • ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าเบรค หากพบว่าผิวหน้าเบรคมีรอยขรุขระ ส่งผลต่อการใช้งาน ควรจารจานเบรคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรค
  • หาเวลาทำความสะอาดจานเบรกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดยสามารถใช้น้ำยาล้างจานเบรคเช็ดทำความสะอาดได้ 
  • ควรเปลี่ยนจานเบรดคู่หน้า และคู่หลังพร้อม ๆ กัน เพื่อความสมดุลในการเบรค

จานเบรคเป็นชิ้นส่วนหนึ่งภายในรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม หรือละเลยการบำรุงรักษา เพราะส่งผลกับความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง การดูแลจานเบรคอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานห้นานขึ้นได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้