น้ำมันเบรก (Brake fluid) คือของเหลวชนิดหนึ่ง มีความสำคัญอย่างมากในระบบเบรก ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนแรงที่กระทำต่อแป้นเบรกให้กลายเป็นความดันไฮดรอลิกและทำให้ผ้าเบรกกดกับจานเบรกหรือดรัม จนเกิดแรงเสียดทานสำหรับการชะลอความเร็วของรถ จนกระทั่งรถหยุดนิ่งในท้ายที่สุด น้ำมันเบรกจึงมีความจำเป็นต่อการป้องกันการสึกหรอของระบบเบรก รวมถึงช่วยป้องกันเบรกแตก
ประเภทของน้ำมันเบรก
คุณสมบัติสำคัญของน้ำมันเบรก คือ ไม่สามารถบีบอัดได้ และ สามารถละลายกับน้ำได้เป็นเนื้อเดียว โดยส่วนใหญ่เป็นสารผสมชนิดไกลคอล-อีเทอร์ (glycol-ether) แต่อาจมีชนิดอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันน้ำมันเบรกที่นิยมใช้มี 3 ประเภท ได้แก่
- DOT 3 : องค์ประกอบหลัก คือ ไกลคอลอีเทอร์ เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้ดรัมเบรกทั้งล้อหน้าและหลัง หรือรถเกียร์ธรรมดา
- DOT 4 : องค์ประกอบหลัก คือ ไกลคอลอีเทอร์/โบเรตเอสเทอร์ เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้ระบบดิสก์เบรกล้อหน้าและดรัมเบรกหลัง รถยนต์ที่มีระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ และรถยนต์ที่ใช้ระบบ ABS ตัวน้ำมันจะมีจุดเดือนน้อยกว่า DOT 3
- DOT 5.1 : องค์ประกอบหลัก คือ ไกลคอลอีเทอร์/โบเรตเอสเทอร์ เหมาะกับรถยนต์สมรรถนะสูง ใช้งานหนัก และรถยนต์ที่ใช้ระบบ ABS
โดยสามารถตรวจสอบได้ว่ารถใช้น้ำมันเบรกประเภทไหนได้จากกระปุกน้ำมันเบรค รถรุ่นใหม่ๆจะสามารถใช้ได้ทั้ง DOT 3 และ DOT 4 หรือ หากรถระบุว่าใช้ DOT 3 จะสามารถใช้ DOT 4 ทดแทนได้ แต่หากระบุเพียง DOT 4 จะไม่สามารถใช้ DOT 3 ได้
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรก
ผู้ใช้รถสามารถตรวจปริมาณน้ำมันเบรกได้จากในกระปุกน้ำมันเบรกที่ห้องเครื่อง (ดูได้จากคู่มือประจำรถ) ควรมีปริมาณที่ Max อยู่ตลอดเวลา หากมีการพร่องของน้ำมันควรรีบตรวจระบบเบรก
สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก รถบ้านไม่ได้บรรทุกหนักใช้งานทั่ว ๆ ไป ควรเปลี่ยนทุก 2 ปี หรือทุกระยะทาง 40,000 กิโลเมตร เพื่อให้น้ำมันเบรกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่หากเป็นรถที่ใช้บรรทุกของหนัก ออกต่างจังหวัด ขึ้นลงเขาประจำก็ควรเปลี่ยนปีละครั้งหรือตามพฤติกรรมการใช้งาน
วิธีการเปลี่ยนน้ำมันเบรก และงบประมาณ
ข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการเปลี่ยนน้ำมันเบรกคือ ถ้าเคยใช้น้ำมัน DOT ใด ก็ต้องใช้ประเภทเดิม โดยต้องเตรียมอุปกรณ์ดังนี้
- น้ำมันเบรก อย่างน้อย 1 ลิตร (น้ำมันเบรกมีหลายราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200 บาท)
- ประแจเบอร์ 8 และเบอร์ 10
- ที่ดูดน้ำมัน (หัวปั๊มสบู่เหลว หรือกระปุกหยอดน้ำมัน)
- สายยางสีใส หรือสายยางตู้ปลา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ¼ นิ้ว ยาวอย่างน้อย 50 เซนติเมตร
- ขวดเปล่า 1.5 ลิตร
- ผู้ช่วย 1 คน (สำหรับเหยียบเบรกตอนไล่ลมไล่น้ำมันเบรก)
ขั้นตอนและวิธีการ
- เปิดฝากระปุกน้ำมันเบรก นำแผ่นกรองสิ่งสกปรกเวลาใส่น้ำมันเบรกออกมา (ควรนำผ้ามาล้อมกระปุกน้ำมันไว้เพื่อป้องกันการสกปรกเลอะเทอะ)
- ดูดน้ำมันเบรกเก่าและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ในกระปุกน้ำมันเบรกโดยใช้หัวปั๊มสบู่เหลว หรือกระปุกหยอดน้ำมัน ต้องดูดออกให้หมด จากนั้นเติมน้ำมันเบรกใหม่ลงไป และดูดออกซ้ำอีกครั้ง จนแน่ใจว่าใสสะอาดดีแล้ว
- ติดเครื่องยนต์ นำสายยางที่ต่อปลายสายด้านหนึ่งเข้ากับขวดเปล่า และนำปลายสายอีกด้านไปต่อเข้ากับหัวไล่อากาศที่ก้ามปู หรือคาลิเปอร์เบรก (ทำทีละล้อ)
- จากนั้นให้ผู้ช่วยคอยเหยียบ-ปล่อย ย้ำเบรกไปเรื่อย ๆ ส่วนผู้เปลี่ยนน้ำมันเบรกให้ทำการคลายนอตไล่ลมค้าง และคอยสังเกตว่าสีน้ำมันเบรกเริ่มใสแล้วหรือไม่ เมื่อใสและไม่มีฟองอากาศแล้ว จึงค่อยขันปิดนอตไล่ลมทันที (ต้องหมั่นเติมน้ำมันเบรกเรื่อย ๆ อย่าให้น้ำมันเบรกในกระปุกหมดเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีลมเข้าไป ทำให้ต้องไล่ระบบกันอีกครั้ง)
หากไม่อยากยุ่งยากในการเปลี่ยนน้ำมันเบรกสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์รถยนต์ได้ นอกจากการเปลี่ยนน้ำมันเบรกแล้ว ยังมีการตรวจเช็คระบบเบรกแบบละเอียดด้วย เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ หากสนใจตรวจเช็คระบบเบรกสามารถมาได้ที่
Pit&Go ศูนย์บริการรถยนต์ศรีนครินทร์ ให้บริการโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้หากเจอปัญหา
แอร์รถยนต์ไม่เย็น เรายังมีบริการซ่อมแอร์รถยนต์ เช่น
ซ่อมแอร์ BMW แอร์ Honda