4 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ควรซ่อม-เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด

แบตเตอรี่ไฮบริด คือ แบตเตอรี่ที่เป็นพลังงานให้กับรถยนต์ไฮบริด โดยจะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อทำให้รถยนต์ไฮบริดสามารถขับเคลื่อนไปได้นั่นเอง หากแบตไฮบริดเสียก็จะส่งผลกับการทำงานของรถ จึงควรเปลี่ยนหรือซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริดเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แล้วสัญญาณไหนที่จะบอกได้ว่าควรซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด มาดูคำแนะนำกัน

แต่ก่อนจะไปเช็กอาการของแบตเตอรี่ มาทำความรู้จักประเภทของแบตเตอรี่ไฮบริดกันก่อน

แบตเตอรี่ไฮบริด มีกี่ประเภท

1. Nickel-Metal Hydride (NiMH) 

ข้อดีคือมีความทนทาน ทนความร้อน ติดไฟยาก มีราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ ทั้งยังมีราคาซ่อม-เปลี่ยนไม่สูงเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ไฮบริดประเภทอื่น ๆ โดยจะใช้ในรถยนต์ Toyota Prius, Camry Hybrid รุ่นก่อนปี 2020

2. Lithium-ion (Li-ion) 

มีน้ำหนักเบา แต่ความจุสูง สามารถปล่อยพลังงานได้เร็วและแรง ชาร์จได้ไว แต่ร้อนง่าย ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดี ทั้งยังมีราคาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดสูงกว่าหากเทียบกับประเภท NiMH นิยมใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เช่น Toyota Corolla Cross, Yaris Cross Hybrid, Honda Accord e:HEV, Nissan Kicks e-POWER

3. Lithium Iron Phosphate (LiFePO) 

ข้อดีคือมีความเสถียรมาก และปลอดภัยกว่าแบตเตอรี่ไฮบริดประเภทอื่น มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถชาร์จไฟได้เร็ว แต่มีราคาสูง และมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือซ่อมสูง นิยมใช้ในรถ EV หรือระบบเสริม พบได้บ่อยในรถยนต์แบรนด์จีนหลาย ๆ รุ่น

สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด

1. เครื่องยนต์ทำงานไม่เสถียร

หากเครื่องยนต์ทำงานไม่เสถียร มีอาการติด ๆ ดับ ๆ หรือสตาร์ตติดยาก โดยเฉพาะตอนที่จอดข้ามคืน หรือจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน เป็นไปได้ว่าแบตรถยนต์ไฮบริดคุณกำลังมีปัญหา ควรนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดให้ใหม่ เพื่อให้สามารถใช้รถได้อย่างต่อเนื่อง

2. เปลืองน้ำมันมากขึ้น

อีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่บอกว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด ก็คือ รถของคุณเปลืองน้ำมันมากขึ้น หรือชาร์จแบตเตอรี่ไฮบริดไม่เข้า ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพ ควรนำเข้าอู่หรือศูนย์ให้ช่างเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ หรือตรวจหาสาเหตุทันที 

3. แบตเตอรี่ตัดชาร์จบ่อย

รหัสแดงสุด ๆ หากรถของคุณมีอาการแบตเตอรี่ตัดชาร์จบ่อย นั่นเป็นเพราะแบตเตอรี่ในรถเริ่มเสื่อมสภาพหรือชำรุดจนส่งผลต่อการทำงานของระบบไฮบริดในรถยนต์ ควรส่งซ่อมหรือให้ช่างเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. ใช้งานครบระยะเวลาหรือระยะทางที่ผู้ผลิตกำหนด

โดยปกติผู้ผลิตจะกำหนดให้นำแบตเตอรี่ไฮบริดที่มีการใช้งานตั้งแต่ 3-5 ปี หรือมากกว่า 80,000 กิโลเมตร เข้าตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์บริการ เนื่องจากเป็นระยะที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพแล้ว หากละเลยอาจทำให้เกิดปัญหาในระหว่างขับขี่ได้ จึงควรนำรถเข้าศูนย์ไปเช็กสภาพ และเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดเมื่อถึงเวลา เพื่อความปลอดภัย

เปรียบเทียบการซ่อม VS เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด

หากถามว่า เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ควรซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด หรือ เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดดี? จะเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีของทั้ง 2 กรณี ดังนี้

ข้อดีของการซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด

• มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
• รวดเร็วและไม่ต้องรออะไหล่นาน โดยเฉพาะกรณีที่ซ่อมเฉพาะเซลล์หรือระบบควบคุม
• สามารถเลือกซ่อมเฉพาะส่วนที่เสียได้ ลดค่าใช้จ่ายลงอีก
  
• ลดสารพิษจากการทิ้งแบตเตอรี่เก่า
• ลดการใช้ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ใหม่

ข้อดีของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด

• ใช้งานต่อเนื่องได้นานมากกว่า
• ประสิทธิภาพโดยรวมกลับมาเหมือนรถใหม่
• ได้รับการรับประกันจากศูนย์
• ไม่ต้องดูแลหรือบำรุงรักษามากหลังเปลี่ยน
• ไม่ต้องกังวลว่าช่างจะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด 

ไม่อยากซ่อม-เปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดบ่อย มีวิธีดูแลแบตอย่างไร

ไม่จอดกลางแจ้งหรือที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป

หากไม่อยากซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดบ่อย ๆ ควรเลือกจอดในร่ม หรือจอดภายในอาคาร ไม่ควรจอดไว้กลางแดดจัด หรือจอดในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้แบตสะสมความร้อน และมีอุณหภูมิสูงขึ้น จนทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วได้

ห้ามดับเครื่องยนต์ขณะชาร์จแบต

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็คือการดับเครื่องยนต์ขณะกำลังชาร์จแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตจะเกิดภาวะ Memory Effect ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมนั่นเอง หากกำลังชาร์จแบตอยู่ ควรชาร์จให้เต็มก่อนแล้วค่อยดับเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ 

ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งตอนออกตัว

การเหยียบคันเร่งแรงมากเกินไปขณะกำลังออกรถ จะทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อน ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว จนเป็นสาเหตุให้ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดนั่นเอง การขับขี่อย่างนิ่มนวลจะเป็นผลดีกับทั้งตัวเครื่องยนต์และแบตเตอรี่มากกว่า 

งดขนของหนัก

น้ำหนักรถที่มากเกินไปก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและมีความร้อนสูง ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ดังนั้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริดให้นานขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงการขนของหนักจะดีกว่า 

เช็กแบตเตอรี่ตามระยะที่กำหนด

อย่าลืมนำรถยนต์ไฮบริดเข้าไปเช็กสภาพที่อู่หรือศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเมื่อครบกำหนด เพื่อเช็กสภาพให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา หรือมีจุดใดที่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดบ้าง ซึ่งการทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ไม่ต้องซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริดบ่อย ๆ

ซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริด ที่ไหนดี

คุณสามารถซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดได้ที่อู่หรือศูนย์บริการ โดยควรเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีช่างที่มีประสบการณ์ในการซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เช่น Pit&go ที่มีประสบการณ์ในการซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด และมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำแนะนำและบริการ มีบริการซ่อมแซมรถยนต์หลากหลาย เช่น โช๊ครถยนต์ ระบบทำความเย็น